Miyajima | Kaki-ya หอยนางรมย่างร้านดังบนเกาะมิยาจิม่า
แวะมาถึงเกาะมิยาจิม่าแล้ว ต้องไม่พลาด หอยนางรมย่าง (Grilled Oysters) ซึ่งเป็นเมนูขึ้นชื่อของฮิโรชิม่ารวมถึงเกาะมิยาจิม่า โดยบริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องการเพาะเลี้ยงหอยนางรมมากว่า 300 ปี! วันนี้จะพาไปลิ้มลองกันที่ร้านคากิย่า (Kaki-ya) ร้านเก่าแก่บนเกาะกันครับ – เว็บไซต์ของร้าน http://www.kaki-ya.jp/
การเดินทาง
จากท่าเรือเฟอร์รี่บนเกาะมิยาจิม่า เดินเลียบเกาะมาตามทางจนสุดจะถึงทางตัน บังคับให้เลี้ยวซ้าย จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าซอยแรก จะเข้าสู่ถนนช็อปปิ้ง Omotesando จะเห็นร้านขายของ ร้านอาหาร ร้านขนมหลายร้านตลอดสองข้างทาง จากนั้นเดินตรงไปอีกไม่เกิน 100 เมตรก็ถึงที่ร้าน Kaki-ya
เวลาเปิดปิด
11:00 – 18:00
ราคาต่อหัว (โดยประมาณ)
2,000 – 3,000 เยน
บริเวณหน้าร้าน Kaki-ya ข้างในร้านมีที่นั่งสองชั้น ใครมาคนเดียวสามารถนั่งตรงเคาน์เตอร์ชั้นล่างได้
ก่อนเสิร์ฟใส่จาน หอยทุกตัวจะผ่านการตรวจเช็คคุณภาพอย่างละเอียดโดย Grill Master ซึ่งย่างกันสดๆบนเตาย่างความร้อนสูงที่หน้าร้าน
หอยที่ผ่านการคัดเลือกเป็นอย่างดี ตัวจะใหญ่และมีขนาดเท่าๆกัน
เมนูของร้าน มีให้เลือกไม่มากนัก เพราะจานหลักของที่นี่มีแค่หอยนางรม นอกเหนือจากหอยแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งผลิตไวน์หลากหลายชนิด เมื่อทานคู่กับเมนูหอยแล้ว เรียกได้ว่าครบสูตรความอร่อยเลยทีเดียว
12 ขั้นตอน กว่าจะมาเป็นหอยนางรมย่าง
1. เช้ามืด ตีห้า ชาวประมงแล่นเรือออกจากชายฝั่ง เริ่มวางแพลงไปสำหรับเพาะเลี้ยง
2. ด้วยความที่อ่าวฮิโรชิม่า (Hiroshima Bay) เป็นแหล่งน้ำที่มีแร่ธาตุสูง (ทั้งน้ำทะเลและน้ำจากแม่น้ำ ไหลมาบรรจบกัน) ทำให้มีแพลงก์ตอนขนาดเล็กซึ่งเป็นอาหารของหอยนางรมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเจ้าแพลงก์ตอนนี้คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้หอยนางรมสามารถเจริญเติบโตได้ดี
3. ปรับระยะความกว้างของแหที่ใช้จับ เปลี่ยนไปตามขนาดที่ต้องการ (ถ้าต้องการตัวใหญ่ก็ปรับระยะให้กว้างขึ้น)
4. เพาะเลี้ยงหอยโดยแขวนไว้บนแพโดยใช้เครนยกลงไปในทะเล ข้างใต้ แพมีความลึกประมาณ 8 เมตร
5. หลังจากใช้เวลาเติบโตเต็มที่ 3 ปี ก็ถึงเวลาเก็บเกี่ยว (คิดว่าช่วงออกทะเล น่าจะเพาะเลี้ยงและเก็บเกี่ยวในเวลาเดียวกัน)
6. ช่วงเวลาเก็บเกี่ยว หอยที่ติดกันเป็นพรวนจะถูกดึงขึ้นมาเก็บไว้บนเรือ
7. หลังจากการเก็บเกี่ยวบนเรือ อาจมีสิ่งอื่นๆ เช่น กุ้งขนาดเล็กหรือเพรียงติดมาด้วยกับหอยนางรม ซึ่งแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของทะเลได้อย่างดี
8. งานเก็บเกี่ยวจบแล้ว แล่นเรือกลับ ต่อไปเป็นงานบนชายฝั่ง
9. คนงานเริ่มคัดแยกหอยออกจากสิ่งที่ติดมาด้วย
10. คัดแยกขนาดอีกรอบ หอยที่ขนาดเล็กเกินหรือไม่ได้มาตรฐานจะถูกคัดออก
11. ส่วนที่ผ่านการสกรีนจะถูกเช็คอีกครั้งโดยการแกะเปลือกออกเพื่อเป็นการเช็ครอบสุดท้าย
12. หอยที่หลงเหลือถึงขั้นตอนนี้คือ หอยนางรมที่มีคุณภาพสูงสุด (จะมีสีครีม) และสด เหมาะสำหรับเสิร์ฟในร้าน
(ขั้นตอนเค้าเยอะจริงๆ สมกับเป็นร้านดังของเกาะ)
ขอบคุณข้อมูลและภาพจากเว็บไซต์ของร้านครับ แปลจากเขามาอีกที ผิดถูกยังไง รบกวนชี้แนะด้วยครับ
ไปดูเมนูของร้านกัน
Menu
ไฮไลท์ของร้านนี้อยู่ที่ Kaki-ya Set Meal ประกอบด้วย 5 เมนูจากหอยนางรม เหมาะสำหรับคนที่อยากชิมหลายๆอย่าง
Yaki-gaki – หอยนางรมย่าง สดมากๆ
Kaki-furai (oysters breaded and fried) – หอยนางรมชุบเกล็ดขนมปังทอด
Kaki-meshi – หอยนางรมผัดกับข้าว Portion นึงเล็กมากๆ
Oysters pickled in oil – หอยนางรมดอง
นอกจากนี้ยังมีซุปหอยร้อนๆอีกถ้วย แต่ไม่ได้ถ่ายมาครับ
เวลาย่าง ถ้าตัวไหนยังไม่ได้ที่ เขาก็จะเอาฝาครอบปิดไว้ก่อน เพื่อให้โดนความร้อนอย่างทั่วถึง
บรรยากาศภายในร้าน ที่ชั้นสอง
ความกว้างร้านแค่ 1 คูหา ค่อนข้างแคบ แต่ข้างในลึกเหมือนกันครับ
ชั้นล่าง มีแบบนั่งพื้นทานได้ ถ้าจะมาทานร้านนี้ พยายามมาก่อนเที่ยงหรือเลยเที่ยงไปเลย เพราะคนแน่นมากครับ ยิ่งถ้าเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ยิ่งแน่นขึ้นไปใหญ่
สำหรับใครที่มีแพลนมาเที่ยว แนะนำให้มาช่วงปลายปี – ต้นปีครับ เพราะหอยนางรมสามารถหารับประทานได้เฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ที่นี่จะจัดให้มีเทศกาลหอยนางรมให้นักท่องเที่ยวได้มาลิ้มลองกัน
ทานเสร็จ ได้เวลาไปเที่ยวศาลเจ้าลอยน้ำ Itsukushima Shrine และเสาโทริอิยักษ์สีแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเกาะมิยาจิม่ากันต่อ Yeah!

























