BangkokBlogsFeatured PostsThailandTravel

6 ข้อควรรู้ ก่อนพาชาวต่างชาติ กินเที่ยวเปรี้ยวรอบกรุง

6 ข้อควรรู้ ก่อนพาชาวต่างชาติ กินเที่ยวเปรี้ยวรอบกรุง

ช่วงกลางเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสพาเพื่อนนักท่องเที่ยวต่างชาติไปตะลอนเที่ยวรอบกรุงเทพฯมาครับ นักท่องเที่ยวต่างชาติคนนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คือเพื่อนร่วมชั้นเรียนของผมเอง ตอนไปเรียนปริญญาโทที่สก็อตแลนด์


โคชี่เป็นเพื่อนคนอินเดียที่ผมสนิทมากคนนึง ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันระหว่างเรียนที่โน่น พอจบแล้วแต่ละคน ก็เดินตามทางของตัวเอง ตัวผมกลับมาประเทศไทย ส่วนเค้าก็กลับประเทศของเค้า หลังจากนั้นก็มีติดต่อกันบ้างครั้งคราว

จนกระทั่งเดือนสิงหาคม 2015 เพื่อนผมคนนี้มีแพลนมาพักร้อนที่เมืองไทย 1 อาทิตย์ นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ได้เจอเพื่อนเก่าอีกครั้ง
เพื่อนผมคนนี้จองแพคเกจทัวร์มาจากบ้าน และนี่คือโปรแกรมคร่าวๆหลังจากมาถึงไทย; แวะเที่ยวพัทยา ร่อนพาราไกลดิ้ง ชมอัลคาซ่าโชว์ ดำน้ำเกาะพีพี เที่ยวเมืองภูเก็ต ก่อนจะมาปิดท้ายที่กรุงเทพ เรียกได้ว่าครบทุกรสชาติเลยทีเดียว
ด้วยโปรแกรมที่แน่นเอี๊ยด และผมเองก็ต้องทำงานวันจันทร์-ศุกร์ แต่โชคดีที่เขามาพักกรุงเทพช่วงหยุดเสาร์-อาทิตย์พอดี ทำให้ผมสามารถพาเขาเที่ยวได้

จากประสบการณ์นำเที่ยวของผม ตลอดทั้งสองสามวันและนี่คือ 6 ข้อ ที่คุณควรรู้ ก่อนพาเพื่อนชาวต่างชาติ กินเที่ยวเปรี้ยวรอบกรุงเทพ

bangkok

 

1. จุดมุ่งหมายของการมาเที่ยว

ยกให้เป็นข้อแรก เรียกได้ว่าสำคัญที่สุด เพราะไลฟ์สไตล์ ความชอบของแต่ละคนที่มาเที่ยวไม่เหมือนกัน

– บางคนอยากไปเก็บสถานที่ท่องเที่ยว ก็พาไปชมวัดวาอาราม นั่งเรือแม่น้ำเจ้าพระยา ชมเมืองรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ฯลฯ
– บางคนชอบกิน ช็อปปิ้ง ก็พาไปย่านสยามสแควร์ มาบุญครอง ประตูน้ำ เยาวราช ฯลฯ
– บางคนชอบเที่ยวดึก ชอบชีวิตกลางคืน มาเพื่อปาร์ตี้ แฮ้งเอาท์โดยเฉพาะ ก็พาไปถนนข้าวสาร ถนนสีลม ฯลฯ

หากเรารู้แล้วว่าจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวต่างชาติคืออะไร จะช่วยให้เราจัดโปรแกรมได้ถูกใจพวกเค้ามากยิ่งขึ้น

Bangkok - 009

2. การเดินทาง

เคยได้ยินคำกล่าวของซุนวู ปราชญ์ชาวจีนที่ว่า “รู้เขารู้เขา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” ไหมครับ
คำกล่าวนี้สามารถใช้ได้กับทุกเรื่องๆ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องการเดินทางท่องเที่ยว

แน่นอน การหาข้อมูล เช็คเส้นทางใน Google Map เวลาเปิดปิดของสถานที่ จำได้แม่นยำว่าขึ้นรถลงรถสายไหน ไปลงสถานีอะไร ฯลฯ เหล่านี้ ล้วนเป็นการเริ่มต้นที่ดีมากๆ

แต่ๆๆ ผมคิดว่ามันจะดีกว่ามากๆนะหากแผนนั้นสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาตามสถานการณ์ นั่นคือ สามารถยืดหยุ่นได้เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่อาจไม่คาดฝันขึ้น เช่น รถติด ปิดถนน คนเยอะ บลาๆ หรือเรียกให้ชัดเจนคือ มีแพลน A, B, C… รออยู่แล้วนั่นเอง

คือบางครั้งเราไม่ควรจำกัดตัวเองว่าต้องไปตามแผนเป๊ะๆครับ เพราะจะทำให้เราเครียดและกังวลเกินไป ลองถามคนท้องถิ่นหรือไปลุยเอาข้างหน้า จะทำให้การเดินทางดูสนุกตื่นเต้น มีรสชาติขึ้นเยอะ
แม้ว่าสุดท้ายเราอาจจะหลงทางไปบ้าง ไปถึงที่หมายช้ากว่ากำหนด หรือพลาดบางโปรแกรมไป แต่นี่ละครับ เสน่ห์ของการเดินทางอย่างแท้จริง…

ลองดูสักครั้ง แล้วจะติดใจ

ผมจะบอกว่า จงอย่าคาดหวังอะไรกับการจราจรบนถนนในกรุงเทพครับ 555+
ถนนที่โล่งอาจไม่ได้หมายความว่ารถไม่ติดเสมอไป
ฉันใดฉันนั้น เส้นทางที่ดูเหมือนรถติด อาจจะแค่ติดไฟแดงนานก็เป็นได้ (ใครจะไปรู้)

การเดินทางโดยรถไฟฟ้าจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี เพราะสามารถประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้มาก ขณะที่แท็กซี่ได้เปรียบเรื่องความสะดวกสบาย ไปได้หลายคนพร้อมกันและเข้าถึงสถานที่ได้มากกว่า

จะเลือกแบบไหน ลองชั่งน้ำหนักเทียบกันดูแล้วค่อยตัดสินใจครับ ทั้งสองแบบมีข้อได้เปรียบ เสียเปรียบแตกต่างกัน อยู่ที่เราเหมาะกับแบบไหนกว่ากันเท่านั้นเอง

การเดินทางโดยรถไฟฟ้าจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี เพราะสามารถประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้มาก ขณะที่แท็กซี่ได้เปรียบเรื่องความสะดวกสบาย+ไปได้หลายคนพร้อมกัน+เข้าถึงสถานที่ได้มากกว่า จะเลือกแบบไหน ลองชั่งน้ำหนักเทียบกันดูแล้วค่อยตัดสินใจครับ ทั้งสองแบบมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบแตกต่างกัน อยู่ที่เราเหมาะกับแบบไหนกว่ากันเท่านั้นเอง

(เพิ่มเติม) อย่างผม ตอนแรกมีแพลนพาเพื่อนไปเที่ยววัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง แล้วไปจบวันที่เอเชียทีค ตั้งใจจะออกตั้งแต่เที่ยงๆ แต่ปรากฏเพื่อนติดซื้อของฝากให้ที่บ้าน กว่าจะเคลื่อนย้ายก็เกือบบ่ายสาม เรานั่งเรือด่วนเจ้าพระยาไป แต่ก็ไม่ทันเพราะวัดปิดเวลาบ่ายสามโมงครึ่ง (ไม่ได้เช็คเวลาปิดไปก่อน) เลยได้แค่ถ่ายรูปข้างนอก รู้สึกเสียดายที่พลาดสถานที่สำคัญไป แต่ทำไงได้ล่ะครับ เราต้องเดินหน้าต่อไป ผมเลยพานั่งรถตุ๊กๆไปลงวัดโพธิ์ซึ่งอยู่ใกล้ๆ เดินเล่นถ่ายรูป แวะตลาดข้างทางหาไรกินนิดหน่อยๆ ก่อนนั่งเรือไปลงสะพานตากสินเพื่อเปลี่ยนเรือไปเอเชียทีค พอไปถึงท่าเรือ โอ้แม่เจ้า คนเข้าแถวรอเรือฟรียาวไปจนถึงทางขึ้นรถไฟฟ้า BTS! อาจเป็นไปได้ว่าวันอาทิตย์ คนเลยเยอะกว่าปกติ ผมกับเพือนเห็นแล้วก็ถอดใจ + เรือลำก่อนเพิ่งออก สุดท้ายเลยตัดสินใจเปลี่ยนแผนกลับไปกินข้าวเย็นในเมืองแทน

Bangkok - 005

3. อาหารการกิน

ใครว่าเรื่องปากท้องไม่สำคัญ ด้วยความหลากหลายของอาหารและรสชาติที่เผ็ดจัดจ้าน ไม่เหมือนใคร อาหารไทยจึงได้การยอมรับว่าเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกหวังจะได้มาชิมสักครั้งในชีวิต และนี่คือเช็คลิสต์คำถาม 5 ข้อที่คุณควรถามเพื่อนต่าวชาติของคุณก่อนพาไปทานอาหาร

– ถามเพื่อนคุณก่อนว่า เป็นคนง่ายๆทานอะไรก็ได้ หรือ ติดต้องทานอาหารชาติตัวเอง ที่เอะอะก็เข้า KFC, McDonalds ตลอด อย่างนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน (โดยปกตินักท่องเที่ยวเวลามาเที่ยวเมืองไทยย่อมอยากมาลิ้มลองอาหารไทยอยู่แล้วครับ ไม่งั้นเค้าคงไม่เที่ยวเมืองไทยหรอก)

– ถามเพื่อนคุณก่อนว่า สามารถทานเผ็ดได้มากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะฝรั่งที่มาจากโลกตะวันตกจะทานของเผ็ดได้น้อยถ้าเทียบกับคนไทย เราอาจคิดว่า “แค่นี้ไม่เห็นเผ็ดเลย” อย่าลืมครับว่าลิ้นแต่ละคนรับความเผ็ดได้ไม่เท่ากัน ฉะนั้นเวลาสั่งอาหาร ควรเน้นรสชาติกลางๆหรือเผ็ดน้อยมากไว้ก่อน

– ถามเพื่อนคุณก่อนว่า ทานมังสวิรัติไหม / อยู่ในช่วงถือศีลอดหรือไม่ จะได้ปรับสไตล์การกินถูก

– ถามเพื่อนคุณก่อนว่า แพ้อาหารประเภทใดไหม สำคัญมากๆครับ เป็นคำถามควรพึงระลึกไว้เสมอ เวลาสั่งอาหารให้เพื่อนทาน เพื่อป้องกันการเสียน้ำใจที่อุตส่าห์สั่งของอร่อยแต่เพื่อนทานไม่ได้ (เช่น สั่งกุ้งมังกรมา แต่เพื่อนแพ้กุ้ง น่าเสียดายนะ แต่ไม่เป็นไร ฉันรับผิดชอบเอง อิอิ)

– ถามเพื่อนคุณก่อนว่า ราคาประมาณนี้จ่ายไหวไหม ร้านอาหารในไทยแต่ละแห่งมีราคาหลายระดับแตกต่างกันไป ตั้งแต่ร้านข้างถนน ไปจนถึงภัตตาคารตามโรงแรม โอเคกับราคาประมาณนี้ไหม

โดยรวม เราต้องเน้นความต้องการของผู้มาเยือนเป็นหลักครับ ดูว่าเค้าชอบทานอะไร เราเพียงแค่นำเสนอสิ่งที่เราเห็นว่าดีและถูกปากเค้า แค่นี้ก็ทำให้เรื่องปากท้อง ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

(เพิ่มเติม) หลังผิดหวังจากการที่ไม่ได้ไปเที่ยวเอเชียทีค เราตัดสินใจกลับมาหาอะไรกินที่สยามพารากอน ระหว่างเดินหาร้าน ผมนึกในใจ คนอินเดียกับเครื่องเทศเป็นของคู่กัน ฉะนั้นน่าจะชอบอะไรที่เป็นแกงๆ ตอนนั้นเดินผ่านร้าน CocoICHIBANYA ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น เพื่อนผมบอกไม่เคยกิน เข้าทางเลยทีนี้ ได้นำเสนอของแปลกใหม่ให้  ผมเลยพาเข้าไปนั่ง ผ่านไปสิบห้านาที อาหารหมดเกลี้ยง ผลตอบรับออกมาดีเกินคาด เพื่อนผมบอกประทับใจมาก อร่อย รสชาติเข้มข้น เค้าบอกว่าใช้เครื่องเทศต่างจากบ้านเค้า แต่รสชาติเยี่ยมไม่แพ้กัน ผมเองก็แซวว่า สนใจเอาแฟรนไชส์ร้านนี้ไปเปิดที่ประเทศยูไหม 555+ 

Bangkok - 004

4. ที่พัก

ถ้ามาคนเดียวหรือมาเป็นคู่ ขอแนะนำให้พักโฮสเทลครับ เพราะราคาถูก + ได้เพื่อนใหม่เยอะ แต่ถ้าอยากเป็นส่วนตัวหน่อย ให้ลองหาโรงแรมถูกๆหรือเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ดูครับ

ถ้ามาเป็นครอบครัวอาจจะจัดให้พักอย่างสะดวกสบายหน่อย อย่างเช่นโรงแรม สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ร้านอาหาร ฯลฯ เหมาะสำหรับคนที่มาพักผ่อนจริงๆ หรือ ถ้าเป็นครอบครัวที่ชอบลุยๆ ที่พักไม่ใช่เรื่องใหญ่ มีไว้แค่ซุกหัวนอน ลองเลือกห้องพักแบบส่วนตัวในโฮสเทล ก็เป็นไอเดียที่ไม่เลวครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมขอแนะนำให้เลือกที่พักใกล้กับเส้นรถไฟฟ้า BTS/MRT จะสะดวกมาก ไม่ต้องถึงขนาดติดรถไฟฟ้า แต่ก็ขอให้เดินได้ไม่เหนื่อยก็พอ ข้อดีคือไม่ต้องเสียค่าเดินทางไป-กลับที่พัก + ควบคุมเวลาได้

(เพิ่มเติม) พยายามหลีกหนีที่พักย่านที่นักท่องเที่ยวมาพักเยอะๆ เช่น ประตูน้ำ ตึกใบหยก 2 ฯลฯ บริษัททัวร์หลายแห่งมักจัดให้นักท่องเที่ยวไปพักที่นั่น (โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน) และแถวนั้นค่าครองชีพจะค่อนข้างสูงมาก ของในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven / Family Mart จะราคาแพงกว่าที่อื่น

เนื่องจากเพื่อนผมพักอยู่ที่โรงแรมใบหยกสกาย ถ้ามาจากสยาม/เซ็นทรัลเวิลด์ เวลาไปรับค่อนข้างลำบากนิดนึง คือจะเดินก็ไกลอยู่ จะนั่งแท็กซี่ไปก็เสียดายตังค์ รถติดอีก จะนั่งรถเมล์ก็ไม่รู้สาย+รอนาน แต่วันแรกที่เพื่อนมาถึง (วันเสาร์) บังเอิญอากาศค่อนข้างดี ไม่มีแดด ผมเลยเดินจากเซ็นทรัลเวิลด์ไป ถ้าไม่รีบก็เดินได้เรื่อยๆครับ ไม่เหนื่อยเท่าไร แต่ถ้าอากาศร้อนล่ะก็ เหมือนถูกเผาเลยครับ ไม่อยากเดินไปเลย พับผ่าสิ 555+

วันอาทิตย์ผมต้องไปรับเพื่อนที่โรงแรมตามปกติ แต่วันนั้นดันมีงาน Bike for Mom ปิดถนนทั่วกรุง แถมอากาศดันร้อนอีก ผมคิดในใจ “เอาวะ ไปแท็กซี่ดีกว่า เห็นสี่แยกประตูน้ำรถไม่ติด” ยอมเสียตังค์แลกกับความสะดวกสบาย ผมกระโดดขึ้นแท็กซี่ นั่งตากแอร์เย็นๆ แปบเดียวคงถึง แต่ปรากฏเค้าดันปิดถนนราชดำริทางไปตึกใบหยกจนถึงถนนศรีอยุธยา (งานเข้าแล้วตรู) ผมเลยขอแท็กซี่ลงตรงห้างแพลตินั่ม (ไปไม่ถึงไหน แถมเสียตังค์อีก 51 บาท ค่ารถติด -*-) และนัดเพื่อนเจอกันตรงนี้แทน กว่าจะโทรนัดให้มาเจอกันได้ เสียเวลาไป 10-15 นาที เพราะต้องเผื่อเวลาเดินออกมาจากโรงแรม เพื่อนบอกกรูเพิ่งอาบน้ำมา เหงื่อแตกอีก T_T สุดท้ายจากห้างแพลตินั่มเราเดินไปขึ้นรถไฟฟ้า BTS ที่สถานีชิดลม (ซึ่งก็โคตรไกลล) นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมแนะนำให้เลือกที่พักใกล้กับเส้นรถไฟฟ้า เชียร์แบบสุดใจขาดดิ้น 

Bangkok - 010

5. ช็อปปิ้ง

สำหรับขาช็อปทั้งหลาย ผมขอแนะนำแหล่งช็อปปิ้งขึ้นชื่อ แห่งแรกคือ ตลาดนัดสวนจตุจักร เปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น ของขายมีทุกสิ่งอย่าง ทั้งของกิน เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของตกแต่ง เครื่องใช้ในบ้าน เยอะแยะไปหมด ที่นี่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติแวะมาเดินเที่ยวอย่างไม่ขาดสาย บรรยากาศดีทีเดียว ก่อนไปควรวางแผนการเดินดีๆครับ ไม่งั้นอาจหลงได้ (เหมือนผม) ตลาดนัดสวนจตุจักรตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต หรือ MRT จตุจักร สามารถนั่งมาลงสถานีไหนก็ได้

อีกที่ที่ไม่อยากให้พลาดคือ มาบุญครอง หรือ MBK Center ห้างขวัญใจชาวต่างชาติที่ขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายของสินค้าและราคาที่ถูก โดยเฉพาะ สินค้าไอที โทรศัพท์มือถือ ที่มืถึง 2 ชั้น ครั้งหนึ่ง โชเซ่ มูริญโญ่ ผู้จัดการทีมฟุตบอลเชลซี เคยมาเดินแล้วได้ของกลับไปด้วย!

(เพิ่มเติม) ลืมบอกไปว่าเพื่อนผมคนนี้ต่อราคาได้เก่งมาก อย่างของราคา 1,000 บาท เพื่อนผมบอกขอ 500 บาทได้ป่ะ เจอความเขี้ยวของพี่แกเข้าไป คนขายส่ายหัวกันเป็นแถบๆ เค้าเล่าให้ฟังว่า ที่อินเดียต่อราคาของกันหนักๆแบบนี้เป็นเรื่องปกติมาก 

ถ้าอยากหาของถูกให้ไปอินทราสแควร์ระหว่างห้างแพลตินั่มและตึกใบหยก 2 อันนี้เพื่อนผมเป็นคนแนะนำมา กระเป๋าหนังราคา 1,200 บาทที่มาบุญครอง สามารถหาซื้อได้ในราคา 300 บาท (แต่คุณภาพได้หรือเปล่านั้นอีกเรื่อง) 

Bangkok - 012

6. สภาพอากาศ

เนื่องจากประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น อุณหภูมิโดยทั่วไปประมาณ 30-35 องศาเซลเซียส ถือว่าค่อนข้างร้อนในความรู้สึกของนักท่องเที่ยวบ้านเราหรือแม้กระทั่งนักท่องเที่ยวจีน เกาหลี ญี่ปุ่น  แต่สำหรับชาวต่างชาติจากยุโรป อเมริกา หรือตะวันออกกลางกลับมองว่า อากาศประมาณนี้กำลังดีทีเดียวเชียว >>> ฝั่งยุโรปจะบอกว่า อากาศอุ่นกว่าบ้านเขา ขณะที่ฝั่งอาหรับบอกว่าเย็นกว่าบ้านเขา

หากมาเที่ยวช่วงหน้าฝน อากาศจะเย็นลง+อาจเจอฝนตกบ้าง เช็คพยากรณ์อากาศก่อนเดินทาง เตรียมร่ม เสื้อกันฝนให้พร้อมครับ
– วันไหนที่อากาศดี มีแดด ฟ้าใส ไร้เมฆหรือมีเมฆบ้าง เก็บโปรแกรมเที่ยว Outdoor ให้ได้มากที่สุด เพราะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับเก็บรูปสวยๆ
– เมื่อเจอฝนตก พยายามจัดโปรแกรมเที่ยว Indoor เป็นหลัก เช่น แวะชมพิพิธภัณฑ์ หรือหลบเข้าห้างสรรพสินค้า พักหาอะไรทานหรือไปช็อปปิ้ง
– ในวันที่อากาศร้อน ควรพกขวดน้ำติดกระเป๋าไปด้วย ช่วยดับกระหายได้ดีเลยหละ

IMG-20150816-WA0011Bangkok - 007

จบแล้วครับ แม้ว่าหลายๆอย่างจะไม่เป็นใจ โปรแกรมไม่ตรงตามแผนไปบ้าง แต่ทริปก็จบลงอย่างแฮปปี้ ในฐานะเจ้าบ้าน เราควรเทคแคร์ ดูแลผู้มาเยือนอย่างเต็มที่ พยายามสร้างเซอร์ไพรส์ หรือทำให้เหนือความคาดหวังของเค้า ให้เค้าเก็บความประทับใจที่มีต่อประเทศไทยกลับไปให้ได้มากที่สุด ประเทศไทยในสายตาชาวต่างชาตินั้น ถือว่าเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์มากครับในแง่ของทรัพยากร ความหลากหลายของวัฒนธรรมที่หลอมรวมเป็นอย่างดี รวมถึงผู้คนที่เป็นมิตร ผมเชื่อว่าประเทศไทยมีดีกว่าที่เราคิด เพียงแต่เราชอบมองข้ามสิ่งดีๆเหล่านั้นไป ลองออกเดินทาง มองโลกให้กว้าง แล้วชีวิตจะมีความสุขอีกเยอะเลยครับ 😀

 

Comments

comments

Share

Panupong Yokyongsakul

The Tourist Diary เกิดขึ้นจากความรักและความหลงใหลในเสน่ห์ของการเดินทาง-ท่องเที่ยวของผมและครอบครัว โดยมีจุดประสงค์เพื่อการบอกเล่าและแบ่งปันข้อมูล ประสบการณ์เดินทางท่องเที่ยว ผ่านตัวอักษรและภาพถ่าย ในมุมมอง ความรู้สึก จากสายตาและหัวใจ ของนักเดินทางธรรมดาๆคนหนึ่ง ให้แก่เพื่อนเดินทางที่มีความต้องการในการเติมเต็มความฝันของชีวิตด้วยการท่องโลกใบนี้